Egypt | เที่ยวบกที่อียิปต์ต่อในราคาประหยัด
วันที่ 1 5 Sep 26 : เดินทางไป CAIRO
02:30 เดินทางออกจากประเทศไทย ไปยังเมืองไคโร ประเทศอียิปต์
12:10 ถึงสนามบินไคโร ประเทศอียิปต์ หลังจากผ่าน ตม. ออกมาเรียบร้อยจะมีเจ้าหน้าที่รอรับที่บริเวรณสนามบินเพื่อนำเราไปยังรถบัส
13:30 รับประทานอาหารเที่ยง / เดินตลาด / ถ่ายรูป
14:30 เยี่ยมชม The Egyptian Museum of Antiquities
พิพิธภัณฑ์นี้ถือเป็น “พิพิธภัณฑ์โบราณคดียุคฟาโรห์ที่เก่าแก่ที่สุดในตะวันออกกลาง” เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1902 ออกแบบโดย Marcel Dourgnon จัดแสดงโบราณวัตถุจากยุคก่อนราชวงศ์จนถึงยุคกรีก-โรมัน รวมถึงสถาปัตยกรรมภายนอก Tahrir Square ที่เป็นแลนด์มาร์กในใจกลางไคโร สิ่งที่ห้ามพลาด Narmer Palette(การรวมอียิปต์เหนือ‑ใต้), Amenhotep III & Tiye(พระพุทธรูปขนาดมหึมา), Amarna Room(ห้องยุค Amarna), Khafre/Kufu statues(ราชวงศ์ Khafre และ Khufu), Rahotep & Nofret(ภาพแกะสลักสีสดสมจริงของเจ้าชาย Rahotep และพระชายา Nofret), Royal Mummies(ห้องราชวงศ์แมมมี่), Yuya & Thuya
17:00 Check-in Hotel : Cairo Inn (ไม่รวมในแพ็กเกจ) / เข้าห้องพัก / พักผ่อนตามอัธยาศัย
20:00. รับประทานอาหารค่ำ / ร่องเรือ ดูระบำหน้าท้อง (ร่องเรือ ไม่รวมในแพ็กเกจ option)
วันที่ 2 6 Sep 26 : Aswan Historical Site
05:00 เดินทางไปยังสนามบิน Cairo Intl เพื่อต่อเครื่องภายในประเทศไปยังสนามบิน Aswan International
08:05 ถึงสนามบิน สนามบิน Aswan International
09:00 เยี่ยมชม Philae temple วิหารแห่งไอซิสเป็นหนึ่งในวิหารอียิปต์โบราณแห่งสุดท้าย
Philae Temple วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บน Agilkia Island หลังจากที่ต้องย้ายมาจากเกาะ Philae เก่า เพราะพื้นที่เดิมเกือบจะจมน้ำจากการสร้างเขื่อนอัสวันเหนือ UNESCO ได้รื้อถอนและประกอบวัดใหม่บนเกาะ Agilkia ระหว่างปี 1977–1980 โดยรักษาทิศทางและองค์ประกอบดั้งเดิมไว้ครบถ้วน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น UNESCO World Heritage Site ในชุด “Nubian Monuments from Abu Simbel to Philae” ตั้งแต่ปี 1979 จุดสำคัญBirth House (Mammisi): ห้องที่ฉลองการเกิดของฮอรัส มีภาพเทพีอิซิสให้นมฮอรัส งดงามมาก และSanctuary (วิหารหลัก): ห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด มีแท่นบูชาและภาพเล่าเรื่องทางศาสนา
10:45 เยี่ยมชม Aswan High Dam
Aswan High Dam เขื่อนนี้ช่วยควบคุมฤดูน้ำหลากของแม่น้ำไนล์ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อียิปต์ โดยปรับการปล่อยน้ำให้เหมาะสมเพื่อการชลประทานและการคมนาคม
12:00 รับประทานอาหารเที่ยง
13:30 เดินทางไปเยี่ยมชม Unfinished obelisk เสาหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ของฟาโรห์หญิงองค์แรกแห่งอียิปต์ ที่ยังสร้างไม่เสร็จ อายุกว่า 3500 ปี
เสาโอเบลิสก์ ใหญ่ที่สุดที่เคยถูกสร้าง พื้นที่เหมืองหินกลายเป็น พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง (open-air museum) นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปสัมผัสเสา พร้อมดูรอยเครื่องมือและกระบวนการแกะหินจริง ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของ Nubian Monuments from Abu Simbel to Philae ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ในปี 1979
15:00 เยี่ยมชม Nubian museum & Nubian village
Nubian Museum (พิพิธภัณฑ์นูเบียน) เรื่องราวลึกซึ้งของวัฒนธรรมนูเบียนกว่า 6,500 ปี นำเสนอเรื่องราวตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงยุคอิสลาม ผ่านวัตถุล้ำค่าหลายพันชิ้น เช่น โครงกระดูกคนอายุ 20,000 ปี หินแกะสลักของกษัตริย์นูเบียน และโบราณวัตถุจากยุค Kush และ Nubia อิสลาม
Nubian Village (หมู่บ้านนูเบียน) บ้านสีสันจัดจ้านและมีความหมาย สถาปัตยกรรมบ้านทำจากอิฐโคลน ด้านนอกและภายในทาด้วยสีสด เช่น ฟ้า เหลือง ชมพู พร้อมลวดลายสัญลักษณ์เช่น “มือฟาติมา” หรือ “ดวงตาทำนาย” เพื่อปกป้องบ้านจากความชั่วร้าย
18:00 Check-in hotel : Obelisk Nile Hotel Aswan (ไม่รวมในแพ็กเกจ)
19:00 ช่วงค่ำชม Sound and light show at Philae temple
Sound & Light Show ที่ Philae Temple โชว์จะเล่าเรื่องราวของ เทพีอิซิส (Isis) และ เทพโอซิริส (Osiris) ผ่านเสียงประกอบ ภาพฉายแสง และดนตรี ทำให้คุณเหมือนย้อนเวลาไปยังยุคอียิปต์โบราณในค่ำคืนที่มีชีวิตชีวาอย่างไม่เหมือนใคร โชว์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยปกติเริ่มหลังพระอาทิตย์ตกประมาณ 19:00 น. – 20:00 น. ตามฤดูกาล
20:00 รับประทานอาหารค่ำ (ไม่รวมในแพ็กเกจ)
21:00 เดินทางกลับเข้าที่พัก / พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 3 7 Sep 26 : Day Trip to Abu Simbel
04:30 เดินทางไปยัง Abu Simbel โดยรถบัส ประมาณ 3–4 ชั่วโมง
08:00 เยี่ยมชม Abu simbel Temple
จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดเมื่อไป Abu Simbel รูปปั้น Ramses II สูง 20 ม., relief ลิง, บันทึกสงคราม , ห้องเสา Osirid, ภาพสงคราม, รูปเทพภายใน
– Great Temple (วิหารใหญ่) และรูปปั้นอลังการ ประตูทางเข้าถูกล้อมรอบโดยรูปปั้น Ramses II ขนาดมหึราสูงกว่า 20 เมตร จำนวน 4 องค์ ซึ่งมีรูปเล็กของพระมารดา พระราชินี Nefertari และลูกๆ อยู่ที่ฐานรูปด้วย หลังรูปปั้น มีภาพ relief ของลิงบูชาดวงอาทิตย์ และภาพสลักที่บันทึกพิธีแต่งงานเพื่อสร้างสันติภาพกับ Hittites
– ปรากฏการณ์ “การส่องแสงจากดวงอาทิตย์” สองครั้งต่อปี ทุกวันที่ 22 กุมภาพันธ์ และ 22 ตุลาคม แสงแดดจะส่องทะลุเดินทางเข้าไปถึงห้องศักดิ์สิทธิ์ด้านใน และส่องสว่างรูปปั้นของเทพและ Ramses II ยกเว้นรูปของ Ptah ที่ยังคงดำมืด — ถือเป็นความมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมและดาราศาสตร์ของอียิปต์โบราณ
– Small Temple (วิหารเล็ก): แด่ Hathor และราชินี Nefertari
10:30 เดินทางกลับ Aswan
14:00 รับประทานอาหารเที่ยงที่ Aswan
16:30 ล่องเรือใบชมพระอาทิตย์ตก Felucca sunset sailing
Felucca Sunset Sailing ใน Aswan ล่องเรือช่วง บ่ายแก่ถึงก่อนค่ำ (ก่อนพระอาทิตย์ตก) — เพื่อชมแสงสีทองสะท้อนน้ำอย่างโรแมนติก เสมือนได้รับฟิลมาภาพยนตร์ยุคเก่า วิวสองฝั่งแม่น้ำ เช่น Elephantine Island และสวนพฤกษา Kitchener’s Botanical Garden ที่คลองสวยงาม — โดยเฉพาะในทัวร์ Felucca พร้อมชมสวน บรรยากาศสุดวิเศษ — พระอาทิตย์ตกทองสาดลงบนผิวน้ำ พร้อมเสียงลมและคลื่นเบา ๆ สร้างความเงียบและความโรแมนติก — ผู้ใช้รีวิวหลายคนเน้นว่าชอบบรรยากาศของ Aswan มากกว่าที่อื่น
19:00 รับประทานอาหารค่ำ (ไม่รวมในแพ็กเกจ)
20:30 เดินทางกลับเข้าที่พัก / พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 4 8 Sep 26 : Aswan to Luxor
07:00 Check-Out ออกจากที่พัก
07:30 เดินทางออกไปยังเมือง Luxorx
09:00 เยี่ยมชม Kom Ombu temple
ชื่อ Kom Ombo แปลว่า “เนินแห่งทอง” วิหารของเมืองนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าสององค์ ได้แก่ เทพเจ้าจระเข้ Sobek โซเบค: ตัวแทนของสัญชาตญาณดิบและการเอาตัวรอด และเทพเจ้าเหยี่ยว Har wer ฮอรัส: ตัวแทนของแสง ความยุติธรรม ที่นี่มี “จระเข้มัมมี่จริง ๆ” ให้ดูในพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ข้างวัด
11:30 เยี่ยมชมวิหาร Edfu temple of Horus ห้ามพลาด!! วัดนี้ ใหญ่สุด อลังการสุด และสมบูรณ์ที่สุด แห่งหนึ่งในอียิปต์เลย
วิหารแห่งเอ็ดฟูเป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดที่อุทิศให้กับฮอรัสและฮาธอร์แห่งเดนเดรา สถาปัตยกรรมยังคงสภาพสมบูรณ์ และตัวอาคารมีจารึกที่สามารถอ่านได้มากมายบนผนัง
13:30 รับประทานอาหารกลางวัน
15:30 เยี่ยมชมวิหาร Karnak temple
คือหนึ่งในจุด “ต้องไปให้ได้” แบบ ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะนี่ไม่ใช่แค่วัดธรรมดา แต่คือ ศูนย์กลางความเชื่อ ศิลปะ และอำนาจ ของอียิปต์โบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!
วัดคาร์นัก เป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในอียิปต์ และหนึ่งในที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 2,000 ปี! โดยกษัตริย์หลายสิบองค์ผลัดกันต่อเติม วัดที่อุทิศให้เทพอามุน (Amun-Ra) และป่าเสาหินในตำนาน โถงเสาขนาดยักษ์ 134 ต้น สูงถึง 21 เมตร เสาทุกต้นสลักลวดลายเทพเจ้า ลายสัญลักษณ์ และชื่อกษัตริย์ ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่คือ ถนนสฟิงซ์ (Avenue of Sphinxes) เป็นทางเดินยาวหลายร้อยเมตรที่สองข้างทางเต็มไปด้วย “สฟิงซ์หัวแกะ” เชื่อมจากวัด Karnak ไปยังวัด Luxor
18:00 รับประทานอาหารค่ำ (ไม่รวมในแพ็กเกจ)
20:00 เดินทางไปยังที่พัก Check-In : Steigenberger Resort Achti (ไม่รวมในแพ็กเกจ) / พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 5 9 Sep 26 : Full day in Luxor
04:30 รถมารับไปขึ้นบอลลูนในช่วงเช้า ชมวิวมุมสูง
05:00 ชมวิวมุมสูงโดย Balloon (ราคาขึ้นบอลลูน ไม่รวมในแพ็กเกจ option)
07:30 เยี่ยมชม Tomb of Nefertari
แห่งหุบเขาราชินี (Valley of the Queens) เป็นสุสานของ ราชินีเนเฟอร์ตารี (Nefertari) พระมเหสีเอกของ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 (รักมากที่สุด) ตั้งอยู่ใน Valley of the Queens ที่เมืองลักซอร์ (Luxor) สร้างขึ้นราว 1300 ปีก่อนคริสตกาล จุดเด่นของที่นี่ คือ จิตรกรรมฝาผนังที่ “สมบูรณ์และงดงาม” ที่สุดในอียิปต์ ผนังทุกด้านถูกวาดอย่างประณีตด้วยสีสดใส สีแดง ฟ้า เหลือง เขียว ยังชัดเจนราวกับเพิ่งทาเสร็จเมื่อวาน แสดงฉากราชินีกับเทพเจ้าต่าง ๆ เช่น อนูบิส, โอซิริส, อามุน, ฮอรัส จิตรกรรมมีความลึก รายละเอียด และเคลื่อนไหว — เหมือนมีชีวิต!
09:00 เยี่ยมชม Valley of the Kings หุบเขากษัตริย์
สถานที่ฝังพระศพของฟาโรห์ และขุนนางชั้นสูงแห่ง ราชอาณาจักรใหม่ (New Kingdom) (ช่วงประมาณ 1550 – 1070 ปีก่อนคริสตกาล) ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ที่เมือง ลักซอร์ (Luxor) หรือก็คือ “ธีบส์” เมืองหลวงเก่าในยุคนั้น มีสุสานกว่า 60 แห่ง ถูกขุดค้นพบแล้ว ไฮท์ไลท์ของที่นี่คือ สุสานตุตันคาเมน (Tutankhamun) มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เพราะถูกพบ “แทบไม่ถูกปล้น” ภายในเจอ “หน้ากากทองคำ” สมบัติจำนวนมหาศาล และปัจจุบันมัมมี่ของฟาโรห์ตุตันคาเมนยังอยู่ในห้อง
11:00 เยี่ยมชมวิหาร Temple of Hatshepsut
Hatshepsut คือ ฟาโรห์หญิงผู้ครองอียิปต์ในช่วง ~1479–1458 ปีก่อนคริสตกาล เธอเริ่มจากการเป็นมเหสี → ผู้สำเร็จราชการ → แล้วประกาศตนเป็น ฟาโรห์เต็มตัว รัฐบาลเธอรุ่งเรืองมาก มีการค้าขาย ศิลปะ และสันติสุข สั่งสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อลงหลักประวัติศาสตร์ว่า “ราชินี ก็เป็นฟาโรห์ที่ยิ่งใหญ่ได้” จุดเด่นที่น่าสนใจของที่นี่คือ มีรูปของฮัตเชปซุตในลักษณะ “ฟาโรห์ชาย” → มีเคราเทียมและหมวกฟาโรห์
11:00 เยี่ยมชมวิหาร Colossi of Memnon รูปปั้นยักษ์แห่งเมมนอน
หนึ่งใน แลนด์มาร์กโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ของฝั่งตะวันตกของลักซอร์ และยังเป็น ประตูสู่หุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings) ด้วย!
รูปปั้นหินทรายขนาดยักษ์ 2 องค์ สูงประมาณ 18 เมตร แกะจาก หินทรายก้อนเดียว หนักกว่า 700 ตัน แกะสลักเป็น ฟาโรห์อเมนโฮเทปที่ 3 (Amenhotep III) นั่งบนบัลลังก์ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก (หันหาน้ำไนล์) สร้างเมื่อราว 1400 ปีก่อนคริสตกาล
13:15 รับประทานอาหารเที่ยง
15:00 เยี่ยมชม Luxor temple
Luxor temple วิหารนี้เริ่มสร้างโดยฟาโรห์อเมนโฮเทปที่ 3 และต่อเติมโดยรามเสสที่ 2 ด้านหน้าวิหารเคยมีโอเบลิสก์คู่ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงหนึ่งต้น อีกต้นถูกยกไปตั้งไว้ที่ จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) กรุงปารีส มีรูปสลัก รามเสสที่ 2 ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านบริเวณทางเข้า ถนนโบราณที่เชื่อม วิหารลักซอร์ กับ วิหารคาร์นัค (Karnak Temple) ยาวกว่า 3 กิโลเมตร ขนาบด้วยรูปสลักสฟิงซ์หลายร้อยองค์ ปัจจุบันได้รับการบูรณะและเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินชม
17:00 รับประทานอาหารเย็น (ไม่รวมในแพ็กเกจ)
19:00 เดินทางกลับเข้าที่พัก
วันที่ 6 10 Sep 26 : Luxor to port ghalib
06:00 ออกเดินทางไปยังวิหาร
08:00 เยี่ยมชม Dandera temple of Hathor
Dandera temple of Hathor วิหารเทพีฮาธอร์ เมืองเดนเดรา มี เสาหิน 24 ต้น หัวเสาแกะสลักเป็นใบหน้าของเทพีฮาธอร์ พร้อมหูวัว อันเป็นสัญลักษณ์ของพระนาง เพดานสีน้ำเงินเข้ม ตกแต่งด้วยภาพจักรวาล ดวงดาว และเทพี “นัท” ผู้กลืนและคลอดดวงอาทิตย์ในแต่ละวัน สื่อถึงวัฏจักรท้องฟ้าและกาลเวลา ภาพแกะสลักวงกลมบนเพดาน แสดงกลุ่มดาวและจักรราศี เช่น พฤษภ (Taurus) และ ตุลย์ (Libra) เดิมอยู่ในวิหาร แต่ปัจจุบันต้นฉบับถูกย้ายไปจัดแสดงที่ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ กรุงปารีส ผนังเต็มไปด้วยภาพแกะสลักเรื่องราวทางศาสนา ใต้ฐานวิหารมีห้องลับและห้องใต้ดินหลายแห่ง ใช้เก็บของศักดิ์สิทธิ์
12:00 รับประทานอาหารเที่ยง
13:30 ออกเดินทางไปยัง Port Ghalib
15:50 Check-in Blue Storm LOB (10-17 Sep 26)
วันที่ 6-13 10-17 Sep 26 : Liveaboard
วันที่ 13 17 Sep 26 : back to Cairo
09:00 Check-Out Liveaboard และเดินทางไปยังสนามบิน
11:00 เดินทางโดยสายการบิน Eygpt Air กลับเข้า Cairo
12:20 ถึงปลาทางสนามบิน Cairo
14:30 รับประทานอาหารเที่ยง และเข้า Check-in Hotel : Cairo Inn (ไม่รวมในแพ็กเกจ)
15:30. Khan el-Khalili Bazaar, shop for souvenirs, and enjoy local snacks.
19:00 รับประทานอาหารเย็น (ไม่รวมในแพ็กเกจ)
20:30. เดินทางกลับเข้าที่พัก / พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 14 18 Sep 26 : Cairo – Giza & Historical
08:00 เยี่ยมชม Great pyramids of Giza , Sphinx of Giza
มหาพีระมิดแห่งกีซ่า (Great Pyramids of Giza)
พีระมิดคูฟู (Khufu / Cheops) ใหญ่ที่สุดในบรรดาพีระมิดทั้งสาม และเป็น สิ่งก่อสร้างโบราณ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ยังคงอยู่จนปัจจุบัน
สฟิงซ์แห่งกีซ่า (Great Sphinx of Giza) เป็น รูปสิงโตหมอบที่มีใบหน้ามนุษย์ สื่อถึงพลังและปัญญา แกะสลักจากหินก้อนเดียวในที่ตั้ง ความยาวประมาณ 73 เมตร สูง 20 เมตร จมูกสฟิงซ์หายไป: มีเรื่องเล่าว่าถูกทำลายโดยกองทัพในสมัยหลัง แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัด , ตำนานเกี่ยวกับ ห้องลับใต้สฟิงซ์ และคำทำนาย “Hall of Records” ที่เชื่อกันว่าเก็บความลับของอารยธรรมโบราณ
11:00 เยี่ยมชม Solar boat museum
12:00 รับประทานอาหารเที่ยง แถวบริเวณพีระมิด
14:00 เยี่ยมชม Grand Egyptian Museum (GEM)
พิพิธภัณฑ์ขนาดมหึมาเฉพาะอารยธรรมเดียว GEM เป็น พิพิธภัณฑ์โบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่อุทิศให้กับอารยธรรมเดียว — อียิปต์โบราณ โดยตั้งอยู่ห่างเพียง 2 กิโลเมตรจากพีระมิดกีซ่า ครอบคลุมพื้นที่กว่า 490,000 ตารางเมตร (เทียบเท่า 80 สนามฟุตบอล) เมื่อเข้ามาในโถงหลัก จะพบกับ รูปปั้น Ramses II ขนาดยักษ์สูง 11 เมตร น้ำหนักกว่า 80 ตัน แสดงตำนานความยิ่งใหญ่ของฟาโรห์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอียิปต์ พิพิธภัณฑ์จัดแสดงมากกว่า 100,000 ชิ้น, โดยมีวัตถุที่ไม่เคยแสดงมาก่อนกว่า 20,000 ชิ้น ไฮไลต์สำคัญคือ คอลเล็กชันสมบูรณ์ของฟาโรห์ตุตันคาเมน (King Tutankhamun) มากกว่า 5,398 รายการ
19:00 ชม Light and sound show
20:00 รับประทานอาหารค่ำ (ไม่รวมในแพ็กเกจ)
21:00 เดินทางกลับเข้าที่พัก / พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 15 19 Sep 26 : Alexandria – Ancient Wonders
06:30 เดินทางไป Alexandria
08:00 เยี่ยมชม Catacombs of Kom el Shoqafa
Catacombs of Kom el Shoqafa คือ สุสานใต้ดินขนาดใหญ่ ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของอียิปต์ยุคโรมัน–กรีก ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง Alexandria
ชื่อ Kom el Shoqafa แปลตามตัวได้ว่า “เนินเขาของเศษหม้อ” เพราะบริเวณนี้เคยพบเศษหม้อดินจำนวนมากที่คนโบราณใช้ทิ้งหลังจากใส่อาหารหรือเครื่องหอมสำหรับประกอบพิธีศพ
สร้างขึ้นราว ศตวรรษที่ 2 – 4 หลังคริสตกาล (สมัยโรมัน) โดยใช้สำหรับฝังศพครอบครัวมั่งคั่งที่นับถือความเชื่อแบบผสมผสานระหว่าง อียิปต์–กรีก–โรมัน
จุดเด่นที่น่าสนใจ สุสานใต้ดินลึก 3 ชั้น ผนัง แท่นฝังศพ และประติมากรรมมีทั้งสไตล์ อียิปต์–กรีก–โรมัน อย่างลงตัว เช่น เทพอนูบิสในชุดเกราะโรมัน สัญลักษณ์ความตายและการเกิดใหม่: เช่น งู, ปีกของเทพ Horus, ดวงตาแห่ง Ra
10:00 เยี่ยยมชม Serapeum of Alexandria and Pompey’s Pilla
Serapeum of Alexandria วิหารเซราปิอุมแห่งอเล็กซานเดรีย Serapeum เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้า Serapis ซึ่งเป็นเทพเจ้าองค์ใหม่ที่ผสมผสานลักษณะของเทพกรีก (อย่าง Zeus และ Hades) กับเทพอียิปต์ (Osiris และ Apis) เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการรวมวัฒนธรรมกรีกกับอียิปต์ในยุคของกษัตริย์ Ptolemy I (ราชวงศ์ปโตเลมี) วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองอเล็กซานเดรีย และเคยเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญมากของเมือง
Pompey’s Pillar เสาโพพีย์ Pompey’s Pillar เป็นเสาหินแกรนิตขนาดยักษ์ที่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่บนซากของ Serapeum โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับ Pompey จริง ๆ (เป็นการเข้าใจผิดของนักเดินทางในยุคโบราณ) แท้จริงแล้ว สร้างขึ้นเพื่อสดุดีจักรพรรดิ Diocletian แห่งโรมันในช่วงปลายศตวรรษที่ 3 ค.ศ. หลังจากที่เขาช่วยฟื้นฟูความสงบให้กับเมืองอเล็กซานเดรีย
11:00 เยี่ยมชม Citadel of Qaitbay
Citadel of Qaitbay ป้อมไคต์เบย์ ป้อม Qaitbay เป็นป้อมปราการริมทะเลที่สร้างขึ้นในปี 1477 (ค.ศ. 1477 / ฮ.ศ. 882) โดย สุลต่าน Al-Ashraf Sayf al-Din Qa’it Bay ซึ่งเป็นสุลต่านแห่งราชวงศ์มัมลุก (Mamluk Sultanate) จุดประสงค์ของการสร้างคือเพื่อ ป้องกันเมือง Alexandria จากการรุกรานของพวกออตโตมันและศัตรูทางทะเลอื่น ๆ หลังจากเมืองอเล็กซานเดรียเคยถูกโจมตีหลายครั้ง 🏛️ สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดคือ ป้อมนี้ถูกสร้างบนซากของ “Lighthouse of Alexandria” หรือ “Pharos of Alexandria” หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณที่ถูกทำลายไปจากแผ่นดินไหว
12:00 รับประทานอาหารเที่ยง
14:30 เยี่ยมชม Bibliotheca Alexandria
หอสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย / New Library of Alexandria Bibliotheca Alexandrina คือหอสมุดและศูนย์วัฒนธรรมขนาดใหญ่ในเมือง Alexandria ประเทศ Egypt ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง Library of Alexandria โบราณ หนึ่งในห้องสมุดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกยุคโบราณที่ถูกทำลายไป เปิดอย่างเป็นทางการในปี 2002 ภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลอียิปต์กับ UNESCO ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ใกล้กับใจกลางเมือง Alexandria
16:00 เดินทางกลับเข้า Cairo
19:00 Shopping and Dining at Cairo Festival City Mall
21:00. เดินทางเข้าสนามบิน Cairo และเดินทางกลับประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
หมายเหตุ : ตารางเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากสภาพอากาศ และสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
และไดฟ์ไซต์ต่างๆ ที่เลือกจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ดูแลทริป และผู้เชียวชาญการเดินเรือ